ข่าวเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2554 สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานเศรษฐกิจจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 9.6% ในไตรมาส 3 ปี 2553 เป็น 9.8% ในไตรมาส 4 ซึ่งขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 9.2% ในปี 2552 เป็น 10.3% ในปี 2553 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 3 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายเพื่อบริโภคของชาวจีนที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้จ่ายของชาวจีนในชนบทที่รายได้ที่แท้จริงขยายตัวถึง 11% ซึ่งขยายตัวมากกว่ารายได้ที่แท้จริงของชาวจีนในเมืองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2520 ขณะที่ยอดค้าปลีกในจีนขยายตัวถึง 18.4% เทียบกับที่ขยายตัว 15.5% ในปี 2552 อีกทั้งมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศกลับมาขยายตัวดีถึง 17.4% เทียบกับที่หดตัว 2.3% ในปี 2552 นอกจากนี้ มูลค่าส่งออกยังขยายตัวดีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวอย่างร้อนแรงผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อปี 2553 สูงถึง 3.3% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนตั้งไว้ไม่เกิน 3% โดยเฉพาะราคาสินค้าหมวดอาหารที่ทะยานขึ้น 7.2% จนทำให้นายกรัฐมนตรี Wen Jiabao ของจีนประกาศจะดำเนินมาตรการต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะรวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและควบคุมการขยายสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดขึ้น เพื่อสกัดกั้นปัญหาเงินเฟ้อสูง รวมทั้งควบคุมราคาอาหารและราคาที่อยู่อาศัยไม่ให้สูงไปกว่านี้ (Bloomberg, WSJ, Bangkok Post, ผู้จัดการออนไลน์, ฐานเศรษฐกิจออนไลน์, ประชาชาติธุรกิจออนไลน์, 19-21 ม.ค. 2554)