ข่าวเศรษฐกิจ
ปลัดกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่จะผสมผสานเชื้อเพลิงและเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้ารูปแบบใหม่ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น บนพื้นฐานต้นทุนค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 3.576 บาทต่อหน่วย จากแผน PDP ปัจจุบันอยู่ที่ 5.55 บาทต่อหน่วย โดยเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ (LNG) จาก 37% เป็น 53% เนื่องจากสถานการณ์การจัดหา LNG ต่างไปจากอดีต มีแหล่งผลิตทั้งจากทวีปอเมริกา ตะวันออกกลาง และรัสเซีย อีกทั้งมีราคาถูกลง ขณะที่สัดส่วนเชื้อเพลิงชนิดอื่น ได้แก่ ถ่านหินหรือลิกไนต์ 12% ซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ 9% พลังงานหมุนเวียน 20% นิวเคลียร์ 0% (จากแผนเดิม 5%) เชื้อเพลิงอื่นๆ 0.06% และการอนุรักษ์พลังงาน 6% ส่วนโรงไฟฟ้าตามนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐ ในช่วงปี 2561-2580 แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าขยะชุมชนใหม่ 400 MW (เมื่อรวมกับแผน PDP เดิมจะทำให้มีโรงไฟฟ้าขยะชุมชนรวม 900 MW) และโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ อยู่ที่ 120 MW ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน จะมีกำลังการผลิตใหม่ช่วงปี 2561-2580 รวม 18,176 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 3,376 MW โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 546 MW โซลาร์ภาคประชาชน 10,000 MW โซลาร์ลอยน้ำและพลังน้ำ รวม 2,725 MW พลังงานลม 1,485 MW และขยะอุตสาหกรรม 44 MW อย่างไรก็ตาม กำลังผลิตใหม่ดังกล่าวไม่ได้รับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบทั้งหมด เช่น โซลาร์ภาคประชาชน คาดว่าจะมีการรับซื้อเข้าระบบราว 4,250 MW (กรุงเทพธุรกิจ, 18 ธ.ค. 2561)