ข่าวเศรษฐกิจ
ธุรกิจยักษ์ใหญ่ของไทยต่างปรับแผนธุรกิจรับมือสงครามการค้าโลกที่ฉุดให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ดังนี้ บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เมลามีนรายใหญ่ของไทย เน้นเก็บเงินสดไว้ในมือให้มากที่สุด และจะชะลอแผนการลงทุนต่างๆ ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นแผนขยายการลงทุนที่เวียดนามหรืออินเดีย ซึ่งในตอนนี้จะต้องมั่นใจว่ามีสัญญาสั่งซื้อของลูกค้าในมือแล้วจึงจะลงทุน จากเดิมที่จะขยายการลงทุนล่วงหน้า อีกทั้งยังมีการทบทวนงบประมาณสำหรับการลงทุนในประเทศด้วย สำหรับในปี 2562 บริษัทฯ ยังคงระวังเรื่องการลงทุนและไม่ได้คาดหวังเรื่องการเติบโตของยอดขาย แต่จะเน้นที่การรักษาตัวเลขของกำไรไว้มากกว่า ขณะที่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ปรับตัวรับมือด้วยแผน 6 ด้าน คือ 1) การขยายการส่งออกตามทิศทางตลาดโลก โดยมองว่าเป็นโอกาสที่จะขยายตลาดส่งออกไปยังจีนและสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ทั้งในผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและเคมีภัณฑ์ 2) ทบทวนโครงการลงทุนและต้นทุนการลงทุน โดยโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาและยังไม่ตัดสินใจลงทุนจะชะลอการลงทุนไปก่อน จากเดิมวางแผนใช้งบลงทุนรวม 5 หมื่นล้านบาท อาจปรับลดลงมาเหลือ 4-4.5 หมื่นล้านบาท รวมทั้งจะตัดขายธุรกิจที่ไม่มีความเชี่ยวชาญออกไปเพราะอาจแข่งขันได้ยากในระยะยาว 3) การบริหารจัดการต้นทุนพลังงาน บริษัทฯ จะทำสัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้าเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงานเพื่อลดต้นทุน 4) สร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ 5) เพิ่มประสิทธิภาพเงินทุนหมุนเวียนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และสอดคล้องกับแผนการลงทุน และ 6) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (ประชาชาติธุรกิจ, 29-31 ต.ค.2561)