ข่าวเศรษฐกิจ

7 กลุ่มสินค้าไทยได้อานิสงส์ส่งออกไปสหรัฐฯ แทนจีน

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า จากกรณีสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ในรอบแรกที่ขึ้นภาษีตอบโต้กันไปแล้วมูลค่าฝ่ายละ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และการขึ้นภาษีตอบโต้กันในรอบใหม่นี้ ซึ่งสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภค 5,745 รายการ มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอัตราภาษี 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2561 ก่อนที่ปรับขึ้นเป็น 25% ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562 ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 5,207 รายการ ในอัตรา 5-10% มูลค่ารวม 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นั้น สรท. คาดการณ์สินค้าไทยที่จะได้รับอานิสงส์ส่งออกไปสหรัฐฯ ทดแทนสินค้าจีนเพิ่ม จะยังอยู่ในกลุ่มเดิมเป็นส่วนใหญ่ ประกอบด้วย 1) กลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ถั่วแห้ง แผ่นยางสดรมควัน ข้าวสี ยางแท่ง 2) กลุ่มผักผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป เช่น กล้วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มะพร้าว ฝรั่ง มะม่วง มังคุด มะละกอ สับปะรด เป็นต้น 3) กลุ่มอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป เช่น ปลาทูน่าบิ๊กอาย ปลาทูน่าท้องแถบ ปลาทูน่าครีบเหลือง สดและแช่แข็ง 4) กลุ่มผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น น้ำผึ้งธรรมชาติ 5) กลุ่มอาหารปรุงแต่งและเครื่องดื่ม เช่น อาหารสุนัขและแมว เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 6) กลุ่มเคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติก เช่น กรดซิตริก 7) กลุ่มยานยนต์และส่วนประกอบ เช่น เครื่องยนต์สันดาปภายใน และยางรถยนต์ ขณะเดียวกันก็มีสินค้าไทยจะได้รับประโยชน์จากการส่งออกไปตลาดจีนแทนสินค้าจากสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ได้แก่ ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป ข้าวโพด และข้าวสาลี สำหรับสินค้าที่จะเสียประโยชน์ในการส่งออกไปจีนเนื่องจากมีคู่แข่งมาก และผลิตได้ต้นทุนต่ำกว่าไทย ได้แก่ เนื้อสัตว์ ถั่วเหลือง ฝ้าย เครื่องบินและชิ้นส่วนอุปกรณ์ เป็นต้น (ฐานเศรษฐกิจ, 23-26 ก.ย. 2561)
Related
more icon
  • calendar icon09.12.2021
  • calendar icon09.12.2021
Most Viewed
more icon
  • calendar icon08.01.2021
  • calendar icon08.01.2018
  • calendar icon13.04.2020
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products