ข่าวเศรษฐกิจ

กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและบีเอ็นเอช เปิดเผยว่า กลุ่มฯ ได้ใช้งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของงบลงทุนขั้นพื้นฐานที่ 1,500 ล้านบาท นำมาปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ รวมถึงพัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับการบริการ ล่าสุดได้พัฒนาแอพพลิเคชัน สมิติเวช พลัส เพื่อให้ผู้ใช้งานได้จองและเลือกแพทย์ที่รักษา ซึ่งจะช่วยในการบริหารเวลา อีกทั้งยังมีช่องทางการจ่ายเงินผ่านมือถือและคิวอาร์โค้ด ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 8,000 ราย นอกจากนี้ ยังได้พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดูแลสุขภาพ หรือ Precision Medicine เพื่อใช้ในการตรวจวิเคราะห์ระดับยีนเฉพาะบุคคล ให้ผู้รับบริการรู้เท่าทัน สกัดกั้น และวางแผน โดยจะสามารถบ่งบอกความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ล่วงหน้าและสามารถดูแลป้องกันได้ ซึ่งโปรแกรมดัวกล่าวจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าในกลุ่มรายได้ระดับกลาง ด้วยค่าบริการในการตรวจที่ถูกกว่าค่าบริการในการรักษาที่ค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันยังช่วยลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษาของประเทศ นอกจากนี้้ ทางกลุ่มฯ ได้ใช้งบลงทุนราว 1,000 ล้านบาท ก่อสร้างโรงพยาบาลสมิติเวช Japanese Regional Hospital ขนาด 300 เตียง เพื่อเป็นศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางสำหรับตับและทางเดินอาหาร รองรับกลุ่มคนไข้ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น สำหรับแผนธุรกิจในช่วง 3 ปี ถัดจากนี้ กลุ่มฯ จะมีการลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งคาดว่าจะมีคนต่างชาติเข้ามาทำงานใน 3 จังหวัดสูงขึ้น ที่สำคัญ ได้แก่ โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี เฟส 2 เพื่อขยายจำนวนเตียงเป็น 400 เตียง จากปัจจุบันอยู่ที่ 220 เตียง และโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา เพื่อขยายจำนวนเตียงเป็น 400 เตียง จากปัจจุบันอยู่ที่ 184 เตียง (โพสต์ทูเดย์, 18 ก.ย.2561)