ข่าวเศรษฐกิจ
ภาคเอกชนมีความกังวลว่าผลกระทบจากวิกฤติการเงินของตุรกี ที่ค่าเงินลีราอ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์ถึง 45% อาจกระทบต่อการส่งออกของไทยไปตุรกี ซึ่งในปี 2560 มีมูลค่าส่งออกรวม 51,060 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออก 5 อันดับแรก ที่ไทยส่งออกไปตุรกี ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เส้นใยประดิษฐ์ ยาพารา และผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งนี้ จากการสอบถามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่า 1) กลุ่มยานยนต์ ประเมินว่าสินค้าส่วนใหญ่ที่ไทยส่งออกไปตุรกีน่าจะเป็นชิ้นส่วนยานยนต์ เพราะตุรกีมีโรงงานประกอบรถยนต์ของหลายค่าย ผลิตรถยนต์ได้ปีละกว่า 1 ล้านคน และทำตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยค่าเงินของตุรกีที่อ่อนค่าลง คาดว่าจะกระทบต่อการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เพราะราคาสินค้าจะแพงขึ้น ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนรถยนต์จากไทยด้วย 2) กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ประเมินว่าการนำเข้าสินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และส่วนประกอบ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากไทยอาจชะลอตัวลง แต่คาดว่าจะกระทบไม่มากเนื่องจากไทยยังมีตลาดอื่นๆ ที่สามารถชดเชยได้ 3) กลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ประเมินว่าตุรกีเป็นหนึ่งในตลาดนำเข้าเส้นใยประดิษฐ์จากไทยเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้าส่งออก ซึ่งผลจากการที่ค่าเงินของตุรกีลดลงมาก คาดว่าจะทำให้การนำเข้าเส้นใยจากตุรกีลดลง เพราะต้นทุนนำเข้าสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่งที่การผลิตเสื้อผ้าของตุรกีจะมีต้นทุนที่สูงขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้ลูกค้าจากยุโรปหรือตลาดอื่นๆ ที่เคยนำเข้าสินค้าจากตุรกี หันไปสั่งซื้อจากแหล่งอื่นที่ถูกกว่าแทน ซึ่งพบว่าขณะนี้สมาชิกของสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มบางส่วนได้รับการติดต่อและเสนอราคาจากลูกค้าในยุโรปเพิ่มขึ้น (ฐานเศรษฐกิจ, 19-22 ส.ค. 2561)