ข่าวเศรษฐกิจ

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบีโอไอ ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเห็นชอบมาตรการเพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนในกิจการเป้าหมายสำหรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2561-30 ธ.ค.2562 แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1) การลงทุนในเขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษใน 3 เขต คือ เขตเมืองการบินภาคตะวันออก (สนามบินอู่ตะเภา) ศูนย์กลางด้านการบิน อากาศยานและอวกาศในภูมิภาค เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซีไอ) ศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนา นวัตกรรมระดับสากล และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (อีอีซีดี) ศูนย์กลางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านดิจิทัล จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มอีก 2 ปี จากสิทธิประโยชน์สูงสุด 8 ปี รวมได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด 10 ปี และลดหย่อน 50% อีก 5 ปี 2) การลงทุนในเขตส่งเสริมเพื่อกิจการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย จะได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มเติมอีก 5 ปี หลังสิ้นสุดระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเกณฑ์ปกติ 3) การลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรมทั่วไปที่ได้รับการส่งเสริมในพื้นที่อีอีซี จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มเติมอีก 3 ปี หลังสิ้นสุดระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเกณฑ์ปกติ ทั้งนี้ มาตรการส่งเสริมการลงทุนดังกล่าวคาดว่าจะสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในอีอีซีเพิ่มขึ้น และเป็นไปตามเป้าที่รัฐบาลต้องการให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในอีอีซีปีละ 1 แสนล้านบาท (โพสต์ทูเดย์, 24 พ.ย. 2560)