ข่าวเศรษฐกิจ
ความตกลง TPP ที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำส่อเค้ามีปัญหาจากที่ทั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน และนางฮิลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ซึ่งจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 ประกาศรื้อฟื้นการเจรจา TPP ที่สรุปผลการเจรจาและลงนามความตกลงไปแล้วขึ้นมาใหม่ เพื่อให้สหรัฐฯ ได้ผลประโยชน์มากขึ้น ซึ่งในเวลานี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจนว่า TPP จะเริ่มบังคับใช้ได้เมื่อไร ล่าสุดจากการสอบถามผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิก TPP พบว่าส่วนใหญ่มีความกังวลและจับตาดูทิศทางของ TPP อย่างใกล้ชิด อาทิ ฮงเส็งกรุ๊ป ผู้ผลิตชุดกีฬาชั้นนำของไทยที่ได้ขยายการลงทุนไปในเวียดนาม มีแผนลงทุนในไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตใหญ่เพิ่มขึ้น หาก TPP ไม่เกิด เพราะแม้ค่าแรงในเวียดนามจะถูกกว่า แต่ประสิทธิภาพการผลิตในไทยสามารถทำได้ดีกว่า เมื่อเทียบแล้วต้นทุนการผลิตก็ไม่ต่างกันมากนัก อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเวียดนามยังมีข้อดีจากข้อตกลง FTA ระหว่าง EU และเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอให้มีผลบังคับใช้ กลุ่มโอเรียนตอลการ์เมนท์ คาดว่าจะชะลอการลงทุนการผลิตเสื้อผ้ากีฬาเพื่อรอดูสถานการณ์ TPP ไฮเทคกรุ๊ป ประเมินว่าหากไม่มี TPP ธุรกิจไทยในเวียดนามจะยังคงแข่งขันได้ เพราะทุกรายก็จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ในการส่งออกไปสหรัฐฯ เช่นกัน บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า แม้ปัจจุบัน TPP จะยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่เวียดนามก็ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการที่มีต่างชาติเข้าไปลงทุนในเวียดนามมากขึ้น และมองว่าในที่สุดประธานาธิบดีบารัค โอบามาจะเร่งนำเรื่อง TPP เสนอต่อรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อให้การรับรองก่อนหมดวาระ (ฐานเศรษฐกิจ, 21-23 ก.ค. 2559)