ข่าวเศรษฐกิจ
สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่าการที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization : IMO) กำหนดให้เรือเดินทะเลต้องใช้น้ำม้นเชื้อเพลิงที่มีค่ากำมะถันไม่เกิน 0.5% จากเดิมกำหนดไว้ที่ 3.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 นั้น จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะมาตรการดังกล่าวทำให้สายเรือประกาศเก็บค่า Low Sulphur Surcharge (LSS) เพิ่มเติมจากค่าระวางเรือ และ Bunker Surcharge ที่เคยเรียกเก็บอยู่แล้ว โดยพบว่าสายเรือแต่ละบริษัทจะเรียกชื่อและกำหนดอัตราเรียกเก็บแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสูตรคำนวณที่แต่ละสายเรือกำหนดขึ้นเอง และหากเปรียบเทียบเส้นทางการเดินเรือ 4 เส้นทางสำคัญ ได้แก่ เอเชีย สหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง และสหรัฐฯ พบว่าค่าบริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์แบบแห้งขนาด 20 ฟุตและ 40 ฟุต ค่า Bunker Surcharge เริ่มตั้งแต่ 9-746 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่า LSS ตั้งแต่ 15-382 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าบริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์แบบแช่เย็นขนาด 20 ฟุต และ 40 ฟุต ค่า Bunker Surcharge เริ่มตั้งแต่ 12-822 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่า LSS ตั้งแต่ 42-573 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ สรท. กังวลว่าสูตรการคำนวณและอัตราค่าขนส่งที่แต่ละสายเรือกำหนดขึ้นจะเป็นธรรมมากน้อยเพียงใด และอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เนื่องจากไทยพึ่งพาการส่งออกทางเรือในสัดส่วนสูง โดยในปี 2561 ไทยส่งออกสินค้าทางเรือปริมาณ 312,746 พันตัน (ประชาชาติธุรกิจ, 2-4 ธ.ค. 2562)