ข่าวเศรษฐกิจ
ตามที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ที่บั่นทอนความต้องการใช้น้ำมันจนส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลงราว 20% นั้น ในการประชุมระหว่างกลุ่ม OPEC กับประเทศพันธมิตรนอกกลุ่ม OPEC เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 ซาอุดีอาระเบียจึงพยายามผลักดันให้ OPEC และชาติพันธมิตรลดกำลังการผลิตร่วมกันลงอีกวันละ 1.5 ล้านบาร์เรล โดยสมาชิกหลักของ OPEC จะลดการผลิตวันละ 1 ล้านบาร์เรล และคาดหวังว่าชาติพันธมิตรจะลดการผลิตวันละ 5 แสนบาร์เรล เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น แต่รัสเซียไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว จึงทำให้การประชุมจบลงด้วยความล้มเหลว ซึ่งหมายความว่าประเทศสมาชิกจะสามารถผลิตน้ำมันได้ตามที่ต้องการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ล่าสุดในวันที่ 7 มีนาคม 2563 ซาอุดีอารามโค รัฐวิสาหกิจน้ำมันของซาอุดีอาระเบียได้ประกาศลดราคาน้ำมันรายเดือนลง ถือเป็นการเปิดฉากสงครามราคา โดยซาอุดีอารามโคลดราคาน้ำมันดิบคุณภาพดีที่จำหน่ายให้กับผู้ซื้อในเอเชียลงบาร์เรลละ 6 ดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าราคาอ้างอิงตะวันออกกลาง 3.10 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ลดราคาน้ำมันที่จำหน่ายให้กับยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือและภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนลงบาร์เรลละ 6-8 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นการท้าทายรัสเซียโดยตรง เพราะน้ำมันดิบอูราลเกรดดีของรัสเซียก็ส่งมาจำหน่ายในภูมิภาคนี้เช่นกัน ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงอย่างหนัก (กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวหุ้น และ https://mgronline.com, 9 มี.ค. 2563)