ข่าวเศรษฐกิจ
กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างติดตามข้อมูลผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ที่จะส่งผลต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2563 เพื่อประเมินว่าจะต้องทบทวนแผน PDP และแผนก๊าซฯ ใหม่หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้หน่วยงานต่างๆ ได้ทยอยปรับลดคาดการณ์ GDP ลงจนอาจถึงขั้นติดลบ ซึ่งจะทำให้สมมติฐานการพยากรณ์ใช้ไฟฟ้าของประเทศ (Load Forecast) ในช่วง 20 ปีข้างหน้าเบี่ยงเบนไปจากตัวเลขที่จะเกิดขึ้นจริงมาก เนื่องจากในแผน PDP 2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ใช้สมมุติฐาน GDP เฉลี่ย 3.3% ต่อปี ทั้งนี้ หากไม่มีการปรับแผน PDP ใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้า จะส่งผลให้มีการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่มากเกินกว่าความต้องการ และมีปริมาณสำรองไฟฟ้าในระบบสูงเกินไป จากปัจจุบันที่มีปัญหาสำรองไฟฟ้าสูงกว่า 30% อยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นภาระต่อค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาสำรองไฟฟ้าในระบบล้นในระยะสั้นคือการเลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าที่มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงปี 2563-2568 ออกไปก่อน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าบางปะกงทดแทนเครื่องที่ 1-2 ของ กฟผ. กำลังการผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ ที่จะเข้าระบบในปี 2563 (www.bangkokbiznews.com, 13 เม.ย. 2563)