ข่าวเศรษฐกิจ

ตามที่รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการส่งออกเหล็ก โดยประกาศเพิ่มอัตราการชดเชยภาษีจาก 10% เป็น 13% สำหรับเหล็กหลายชนิด อาทิ เหล็กรีดร้อน เหล็กลวด และเหล็กแผ่นรีดเย็นชนิดแถบ (Cold-rolled Strip) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2563 นั้น ได้ก่อให้เกิดความกังวลว่า หากระบบโลจิสติกส์ในจีนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ผลิตเหล็กจีนจะต้องหาทางระบายสต็อกเหล็กจำนวนมหาศาลออกมา โดยเฉพาะการส่งออกมายังประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการส่งออกเหล็กของจีน สังเกตจากปริมาณส่งออกเหล็กของจีนที่แม้จะลดลงจาก 73.4 ล้านตันในปี 2560 เหลือ 62.2 ล้านตัน ในปี 2562 แต่ปริมาณส่งออกเหล็กจากจีนมาไทยกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 3.1 ล้านตันในปี 2560 เป็น 3.5 ล้านตัน ในปี 2561 และ 3.7 ล้านตันในปี 2562 อีกทั้งในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 ยังพบการนำเข้าสินค้ากลุ่มเหล็กทรงแบน (Flat Steel Products) เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ โดยสินค้าบางกลุ่มมีการนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นถึง 379% (https://www.metalbulletin.com/, 13 มี.ค. 2563 และฐานเศรษฐกิจ, 19-22 เม.ย. 2563)