ข่าวเศรษฐกิจ
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมรถยนต์เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมรถยนต์โลกเผชิญปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป (ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตรถยนต์ เช่น หน้าจอแสดงผล และระบบส่งกำลัง) ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายต้องลดกำลังการผลิต ล่าสุด Ford Motor Company วางแผนหยุดผลิตรถยนต์ชั่วคราวราว 1 สัปดาห์ ในโรงงานที่ตั้งอยู่ที่รัฐเคนทักกี สหรัฐฯ พร้อมกันนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ค่ายฮอนด้า และเฟียต ไครสเลอร์ คาดว่าจะต้องลดกำลังการผลิตรถยนต์เช่นกัน ทั้งนี้ ปัญหาการขาดแคลนชิปเริ่มขึ้นที่จีนตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 และขยายผลกระทบเป็นวงกว้างไปยังฐานผลิตรถยนต์อื่นๆ ของโลก โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้องการใช้ชิปมากขึ้น เพื่อผลิตสินค้า IT หลายประเภทที่ใช้สำหรับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) หลัง COVID-19 ทำให้หลายประเทศใช้มาตรการ Lockdown และสนับสนุนให้ประชาชนทำงานที่บ้าน ประกอบกับการผลิตรถยนต์ในปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ชิปเป็นส่วนประกอบสำคัญ เพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ โดย LMC (บริษัทวิจัยอุตสาหกรรมรถยนต์ชั้นนำของโลก) คาดว่าการผลิตรถยนต์ทั่วๆ ไป จะต้องใช้ชิปอย่างน้อย 40 ประเภท ขณะที่การผลิตรถยนต์ไฮเอนด์ ซึ่งระบบต่างๆ ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ จะต้องใช้ชิปมากถึง 150 ประเภท (กรุงเทพธุรกิจ, 12 ม.ค. 2564)