ข่าวเศรษฐกิจ
Bloomberg เปิดเผยว่าตั้งแต่ไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาอยู่ในประเทศได้สูงสุด 9 เดือน หลังกักตัว 14 วัน ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเฉลี่ยเพียงเดือนละ 346 คน จากเป้าที่ตั้งไว้กว่า 1,200 คน น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 ล้านคน ที่เข้ามาเที่ยวไทยในช่วงก่อน COVID-19 ระบาดในปี 2563 สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต้องปิดกิจการไปแล้ว 931 แห่ง โดยพื้นที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติจะได้รับผลกระทบรุนแรงมากกว่าพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต ซึ่งกว่า 90% ของรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมด มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น สหรัฐฯ รัสเซีย และจีน โดยขณะนี้โรงแรมบางแห่งต้องลดค่าห้องพักลง 75% เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวไทย แต่อัตราการเข้าพักกลับมีเพียง 10% เท่านั้น นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลที่ให้เงินสมทบในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าโรงแรม ร้านอาหาร และการเดินทางภายในประเทศไม่เพียงพอที่จะจูงใจให้มีนักท่องเที่ยวไทยมาเที่ยวเพิ่มขึ้นทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปได้ ทำให้อัตราการเข้าพักโรงแรมในไทยอยู่ที่เพียง 34% เท่านั้น ทั้งนี้ Bloomberg ได้เปรียบเทียบการท่องเที่ยวของไทยกับมัลดีฟส์ โดยตั้งข้อสังเกตว่ามัลดีฟส์อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ต้องมีผลการตรวจ COVID-19 รับรอง และกำหนดพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแยกออกจากพื้นที่สำหรับชาวพื้นเมืองอย่างชัดเจน ทำให้การท่องเที่ยวของมัลดีฟส์กลับมาฟื้นตัว นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเที่ยวในมัลดีฟส์แล้วกว่า 172,000 คน และยังควบคุมการระบาดของ COVID-19 ได้ (www.brandinside.asia, 21 ม.ค. 2564)