ข่าวเศรษฐกิจ
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มีแผนจะเดินหน้าโครงการ Beyond CFP เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ ต่อยอดจากโครงการพลังงานสะอาด (CFP) ที่เป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและขยายกำลังการกลั่นน้ำมันจากเดิมวันละ 2.75 แสนบาร์เรล เป็นวันละ 4 แสนบาร์เรล ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2566 โดยในโครงการ Beyond CFP จะนำผลพลอยได้จากโครงการ CFP มาเป็นวัตถุดิบ (Feedstock) เพิ่มขึ้นปีละราว 2.2 ล้านตัน แบ่งเป็นก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ราว 6 แสนตัน Light Naphtha ราว 7 แสนตัน ซึ่งจะใช้เป็นวัตถุดิบในสายโอเลฟินส์ และมี Heavy Naphtha อีกราว 9 แสนตัน ซึ่งจะใช้เป็นวัตถุดิบในสายอะโรเมติกส์ เพื่อขยายกำลังผลิตของบริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด (TPX) ซึ่งเป็นบริษัทลูก ส่วน Feedstock ในสายโอเลฟินส์ ทั้ง LPG และ Light Naphtha จะมองโอกาสในการร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีการลงทุนโรงโอเลฟินส์อยู่แล้ว แทนการลงทุนโรงงานใหม่เองซึ่งจะใช้เวลานานและใช้เงินลงทุนสูง ซึ่งบริษัทฯ เห็นว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นโอกาสดีในการเข้าไปร่วมลงทุนในโรงโอเลฟินส์ในแถบอาเซียนที่มีตลาดแล้วและตลาดยังมีความต้องการสูง เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีกำลังการผลิตโอเลฟินส์มากกว่าความต้องการใช้แล้ว (https://mgronline.com, 1 เม.ย. 2564 และ www.bangkokbiznews.com, 2 เม.ย. 2564)