ข่าวเศรษฐกิจ
จากกรณีที่ภาครัฐจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาราคาเหล็กในประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ใช้เหล็กนั้น สมาคมอุตสาหกรรมเหล็กไทยเตรียมยื่นหนังสือชี้แจงต่อภาครัฐว่าราคาเหล็กในประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นการปรับตามต้นทุนสินแร่เหล็กที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งแสดงความไม่เห็นด้วยที่ภาครัฐอาจนำเข้าเหล็กเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันไทยมีกำลังการผลิตเหล็กเส้นก่อสร้างปีละ 11 ล้านตัน แต่ความต้องการใช้ในประเทศมีเพียงปีละ 4 ล้านตันเท่านั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องนำเข้า เช่นเดียวกับสมาคมการค้าเหล็กลวดไทยที่ระบุว่า ราคาเหล็กในไทยที่สูงขึ้นมาจากต้นทุนเศษเหล็กและแร่เหล็กในตลาดโลกที่มีราคาสูงสุดในรอบ 4-5 ปี และมีสัดส่วนสูงถึง 60-70% ของต้นทุนรวม ส่วนที่เหลืออีก 30-40% เป็นต้นทุนพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน ดังนั้น หากรัฐบาลต้องการลดผลกระทบของผู้ประกอบการที่ต้องใช้เหล็กราคาสูง ก็ควรช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญ รวมทั้งออกมาตรการส่งเสริมให้มีเศษเหล็กในประเทศเพิ่มขึ้น เช่น มาตรการกำหนดอายุรถยนต์เก่า โดยการเก็บภาษีสูงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 10 ปี (www.infoquest.co.th, 28 เม.ย. 2564 และกรุงเทพธุรกิจ, 29 เม.ย. 2564)