ข่าวเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์คาดว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกหลายตัว โดยเฉพาะราคาทองแดง จะทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองแดงในตลาดซื้อขายโลหะล่วงหน้ากรุงลอนดอน (LME) ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2564 ทะยานขึ้นไปเป็นตันละ 10,460 ดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อทองแดงรายใหญ่ที่สุด (จีนใช้ทองแดงราวครึ่งหนึ่งของปริมาณผลผลิตทองแดงทั่วโลก) โดยการนำเข้าทองแดงและการผลิตทองแดงของจีนในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้น 9.8% (y-o-y) รวมทั้งยังได้ผลดีจากนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศชั้นนำทั่วโลก ที่ทำให้มีความต้องการใช้ทองแดงเพิ่มขึ้นเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแผงโซลาร์เซลล์ โดยรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน ต้องใช้ทองแดงราว 90 กิโลกรัม เทียบกับรถยนต์ที่ใช้แก๊สที่ใช้ทองแดงราว 15 กิโลกรัม นอกจากนี้ นโยบายดังกล่าวยังเร่งความต้องการใช้โลหะอื่นๆ ที่สนับสนุนเทคโนโลยีสีเขียวด้วย อาทิ นิกเกิล ที่มีการประเมินว่า ความต้องการนิกเกิลสำหรับอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่รถยนต์จะขยายตัวจากปี 2563 ราว 10 เท่า เป็นราว 1 ล้านตัน ภายในปี 2573 ส่วนความต้องการทองแดงสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์จะเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวจากปี 2562 เป็น 8.6 ล้านตัน ในปี 2583 (กรุงเทพธุรกิจ, 25 พ.ค. 2564)