ข่าวเศรษฐกิจ
เว็บไซต์ข่าว Nikkei รายงานว่า ขณะนี้ราคาถ่านหินปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปี โดยดัชนีราคาถ่านหินเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 สูงถึงตันละ 177.50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2 เท่าตัวของราคาในช่วงต้นปี 2564 เนื่องจากจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ใช้ถ่านหินรายใหญ่ที่มีสัดส่วนรวมกันราว 65% ของการใช้ถ่านหินทั่วโลกมีความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น โดยในเดือนกรกฎาคม 2564 จีนนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้น 16% (y-o-y) เนื่องจากภัยแล้งในประเทศทำให้ผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนได้ลดลงและต้องหันมาใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น อีกทั้งจีนยังห้ามนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลีย และมีนโยบายควบคุมอุตสาหกรรมถ่านหินอย่างเข้มงวด อาทิ ห้ามเหมืองขนาดเล็กที่ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยดำเนินการผลิต ทำให้ผลผลิตในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอินเดียที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าและถ่านหินเพิ่มขึ้น เพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของ COVID-19 ขณะที่ผู้ผลิตถ่านหินมีแรงจูงใจต่ำในการเพิ่มผลผลิต สังเกตจากการลงทุนใหม่ๆ ในเหมืองถ่านหินที่น้อยมากในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณถ่านหินไม่สมดุลกับความต้องการ จนราคาทะยานขึ้น ล่าสุดอินโดนีเซีย ผู้ส่งออกถ่านหินรายใหญ่สุดของโลก ประกาศห้ามบริษัทเหมือง 34 แห่งในประเทศส่งออกถ่านหินตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 หลังจากฝนตกหนักทำให้กระบวนการผลิตประสบปัญหา (กรุงเทพธุกิจ, 14 ก.ย. 2564)