ข่าวเศรษฐกิจ
หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศผลการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) จำนวน 43 ราย แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 16 ราย รวม 75 เมกะวัตต์ (MW) ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ยหน่วยละ 2.7972 บาท และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 27 ราย รวม 74.5 MW ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ยหน่วยละ 3.5717 บาทนั้น แหล่งข่าวจากวงการพลังงานหมุนเวียนแสดงความกังวลว่าการคัดเลือกครั้งนี้เปิดให้มีการต่อรองราคา โดยไม่มีเกณฑ์การเทียบประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับ ทำให้ผู้เข้าร่วมประมูลแต่ละรายต้องแข่งกันให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าถึง 30-80% ทำให้ได้ค่าไฟฟ้าราคาถูก แต่ในทางปฏิบัติเกษตรกรจะไม่ได้ประโยชน์ เพราะโรงไฟฟ้าที่ชนะการประมูลจะต้องกดราคาซื้อวัตถุดิบ เช่น หากขายไฟฟ้าได้หน่วยละ 4.20 บาท จะรับซื้อเศษไม้ได้ตันละ 1,200 บาท ตามราคาตลาด แต่เมื่อค่าไฟฟ้าลดเหลือเพียง 3 บาท จะรับซื้อวัตถุดิบได้เพียงตันละ 700 บาท ต่ำกว่าราคาลาด ซึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และท้ายที่สุดโครงการก็เสี่ยงจะต้องยกเลิกเพราะผลิตไม่ได้ตามเป้าหมาย และทำให้ไทยไม่สามารถพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนและต้องกลับไปพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่จากก๊าซธรรมชาติเช่นเดิม (ประชาชาติธุรกิจ, 27-29 ก.ย. 2564)