ข่าวเศรษฐกิจ
กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าในปี 2564 สถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น โดยสมาคมเหล็กโลก (World Steel Association) คาดการณ์ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปของโลกว่ามีแนวโน้มขยายตัว 5.8% เป็น 1,874 ล้านตัน โดยความต้องการใช้เหล็กในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียขยายตัว 4.7% และจีน 3.0% ส่วนราคาเหล็กหลายประเภทในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มปรับลงเล็กน้อยในเดือนกันยายน 2564 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เช่น เหล็กแผ่นรีดเย็นลดลง 0.7% เหลือตันละ 980 ดอลลาร์สหรัฐ เหล็กลวดลดลง 2.8% เหลือตันละ 831 ดอลลาร์สหรัฐ จึงคาดว่าราคาเหล็กในตลาดโลกน่าจะเลยจุดสูงสุดมาแล้ว และน่าจะกลับสู่สถานการณ์ปกติในไม่ช้า แต่จะไม่ต่ำลงมากเช่นก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 เนื่องจากจีนมีการควบคุมการผลิตและมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น สำหรับประเทศไทย ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 มีปริมาณการใช้เหล็กเพิ่มขึ้น 18% (y-o-y) เป็น 13.0 ล้านตัน และคาดว่าความต้องการใช้เหล็กทั้งปี 2564 จะเพิ่มขึ้น 15% เป็น 18.9 ล้านตัน โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบนจะเพิ่มขึ้น 19% และผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาวเพิ่มขึ้น 10% (https://mgronline.com, 12 ต.ค. 2564)