ข่าวเศรษฐกิจ
บริษัทที่ปรึกษา IMA ASIA ระบุว่า ปัญหาวิกฤตพลังงานที่ทำให้ราคาน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ปรับสูงขึ้นในขณะนี้ จะทำให้บริษัททั่วโลกมีต้นทุนสูงขึ้นและมีกำไรลดลง โดยบริษัทอินเดียและจีนมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบหนักกว่าบริษัทในสหรัฐฯ เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นตลาดที่ขยายตัวอย่างคึกคัก บริษัทจึงขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนได้เร็วกว่าในจีนและอินเดีย ซึ่งตลาดไม่คึกคักเท่าสหรัฐฯ ทั้งนี้ องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เตือนว่าราคาพลังงานมีความเสี่ยงจะผันผวนมากขึ้น เพราะมีการลงทุนด้านพลังงานในอนาคตน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งจะทำให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดไม่มีความแน่นอน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายและความต้องการของตลาดที่ไม่แน่นอน ทั้งนี้ โลกจำเป็นต้องลงทุนพลังงานสะอาด 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ค.ศ. 2030 เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2050 (ประชาชาติธุรกิจ, 18-20 ต.ค. 2564)