ข่าวเศรษฐกิจ

กยท. ประเมินราคายางพารามีแนวโน้มปรับขึ้น แต่เผชิญหลายปัจจัยกดดัน

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ประเมินผลผลิตยางพาราทั่วโลกในปี 2564 ว่ามีปริมาณ 13 ล้านตัน ลดลง 1.4 แสนตัน จากปี 2563 จากการที่สภาพภูมิอากาศเข้าสู่ภาวะลานีญ่า (La Niña) ทำให้ประเทศผู้ผลิตยางพารามีฝนตกชุกและกรีดยางพาราได้น้อย โดยส่วนหนึ่งยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานกรีดยาง และการระบาดของโรคใบยางร่วง สำหรับประเทศไทยประเมินว่าในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 ผลผลิตยางพาราจะออกสู่ตลาดน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ด้านการส่งออกยางพาราของโลกพบว่าเพิ่มขึ้นจากความต้องการยางพาราที่ขยายตัว ทำให้ปริมาณสต็อกยางพาราของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่อย่างไทยและจีน มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ราคายางพารายังมีแนวโน้มปรับขึ้น แต่มีปัจจัยกดดันจากเงินบาทที่อ่อนค่า ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงปัญหาขาดแคลนชิปในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งนี้ ในปี 2565 กยท. จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ 3 โครงการ ได้แก่ (1) เขตส่งเสริมนวัตกรรมยางพาราระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SECri) ซึ่งเดิมคือโครงการ Rubber Valley เป็นการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราแบบครบวงจร (2) Rubber Way ซึ่งเน้นการบริหารจัดการสวนยางพาราของเกษตรกรเพื่อความยั่งยืน อาทิ ลดความเสี่ยงเรื่องผลผลิต และ (3) การบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตจากสวนยางพาราที่อยู่ในความดูแลของ กยท. (www.ryt9.com, 18 พ.ย. 2564 และกรุงเทพธุรกิจ, 19 พ.ย. 2564)

link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products