ข่าวเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2554 รัฐสภากรีซลงมติไว้วางใจรัฐบาลกรีซชุดใหม่ ด้วยคะแนนเสียง 155 เสียงต่อ 143 เสียง ส่งผลให้รัฐบาลกรีซสามารถเดินหน้ามาตรการลดยอดขาดดุลงบประมาณต่อไป อีกทั้งจะมีการหารือถึงการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่จากสหภาพยุโรป (European Union : EU) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) ในอนาคต โดยปัจจุบัน IMF ประกาศว่ายังไม่มีการหารือถึงการอนุมัติเงินช่วยเหลือครั้งใหม่แก่กรีซ แต่กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลืองวดใหม่จากเงินช่วยเหลือมูลค่า 110 พันล้านยูโร ทั้งนี้ IMF มองว่าแม้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มยูโรโซน (Euro zone) มีแนวโน้มฟื้นตัวในระดับหนึ่ง แต่หากวิกฤตหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่ม PIIGS (โปรตุเกส ไอร์แลนด์ อิตาลี กรีซ และสเปน) ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความน่าเชื่อถือของกลุ่มยูโรโซน นอกจากนี้ IMF ให้ความเห็นว่าประเทศในกลุ่ม PIIGS โดยเฉพาะสเปนและอิตาลี ซึ่งยังไม่ได้ขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน ควรมีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีแนวโน้มสูงมากที่จะได้รับผลกระทบหากกรีซผิดนัดชำระหนี้ อีกทั้งหากวิกฤตหนี้สาธารณะลุกลามบานปลายไปยังประเทศอื่นๆ ใน EU จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศในภูมิภาคเอเชียซึ่งพึ่งพาการส่งออกไปยังประเทศกลุ่ม EU ในสัดส่วนสูง อันจะส่งผลให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ในเอเชียอาจชะลอการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้ว่าต้องเผชิญปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นก็ตาม (Bloomberg, ฐานเศรษฐกิจ, BBC, ผู้จัดการออนไลน์, 20-22 มิ.ย. 2554)