ข่าวเศรษฐกิจ

เงินบาทอ่อนค่าลงแตะระดับ 32.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2556 ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553 กลุ่มนักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ประเมินว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอีก หลังจากนักลงทุนทั่วโลกเทขายเงินสกุลประเทศตลาดเกิดใหม่ อาทิ IDR MYR INR ZAR BRL แล้วหันไปซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed จะปรับลดขนาดการซื้อพันธบัตรหรือชะลอการดำเนินมาตรการ QE3 ภายในเดือนกันยายน 2556 ประกอบกับเริ่มมีความกังวลถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งหลายประเทศเริ่มเห็นสัญญาณการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าสถานการณ์เงินบาทยังเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาค โดย ธปท. พร้อมเข้าแทรกแซงหากเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางผันผวนมากเกินไป ขณะที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประเมินว่าแม้เงินบาทอ่อนค่าจะส่งผลดีต่อผู้ส่งออก แต่ผู้ส่งออกควรบริหารความเสี่ยงด้วยการซื้อประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากโดยปกติการส่งมอบสินค้าจะมีระยะเวลา 3-6 เดือนหลังได้รับคำสั่งซื้อ หากถึงเวลาส่งมอบสินค้าแล้วเงินบาทกลับมาแข็งค่า ผู้ส่งออกอาจขาดทุนกำไรได้ ดังนั้น ผู้ส่งออกไม่ควรเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ควรบริหารจัดการไม่ให้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจ (กรุงเทพธุรกิจ, 23 ส.ค. 2556)