ข่าวเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2559 ธนาคารกลางจีน (The People’s Bank of China : PBC) กำหนดค่ากลางของอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงเงินหยวนรายวันที่ระดับ 6.5646 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 และลดลง 0.5% จากอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงในวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการอ่อนค่ารายวันมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ตั้งแต่จีนลดค่าเงินเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2558 ทั้งนี้ การประกาศลดค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวจุดกระแสความกังวลแก่นักลงทุนว่ารัฐบาลจีนจะลดค่าเงินต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกที่แย่ลงอันเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลงต่ำกว่า 35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ส่งผลให้มีแรงเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จีนอย่างรุนแรงนับตั้งแต่เปิดตลาด จนต้องดำเนินมาตรการหยุดการซื้อขายชั่วคราว (Circuit Breaker) ตั้งแต่ในช่วงเช้า หลังดัชนี CSI300 ปรับตัวลดลง 7.2% นับเป็นการใช้มาตรการ Circuit Breaker ครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวฉุดให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกปรับลดลง รวมถึงดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ปรับลดลงรุนแรงถึง 35 จุด ปิดตลาดที่ 1,224.83 จุด อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำของวันที่ 7 มกราคม China Securities Regulatory Commission (CSRC) ได้ประกาศระงับการใช้มาตรการ Circuit Breaker โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2559 โดยแถลงเหตุผลว่าผลกระทบเชิงลบของมาตรการ Circuit Breaker มีมากกว่าผลในเชิงบวก จึงตัดสินใจที่จะระงับมาตรการดังกล่าวเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดฯ และขยายเวลามาตรการห้ามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (หมายถึงผู้ถือหุ้นเกิน 5%) ขายหุ้น ต่อไปอีก 3 เดือน ซึ่งเดิมมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันที่ 8 มกราคม 2559 ทั้งนี้ ล่าสุดในช่วงเช้าของวันที่ 8 มกราคม ดัชนี Hang Seng Index ของฮ่องกงเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 158.54 จุด หรือ +0.78% แตะระดับ 20,491.88 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการประกาศระงับใช้ มาตรการ Circuit Breaker (CNBC, ไทยรัฐออนไลน์, โพสต์ทูเดย์, สำนักข่าวอินโฟเควสท์, 7-8 ม.ค. 2559)