ข่าวเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 ประเทศสมาชิก 12 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา เม็กซิโก เปรู ชิลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และบรูไน ได้บรรลุข้อตกลง TPP (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement) นับเป็น การเปิดเสรีทางการค้าในวงกว้างที่สุดของโลก โดยขั้นตอนต่อจากนี้ แต่ละประเทศจะต้องนำเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐสภาของประเทศตนเอง คาดว่าเร็วที่สุดจะมีผลบังคับใช้ภายในไตรมาส 1-ครึ่งแรกของปี 2559 ทั้งนี้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยให้ความเห็นว่า ประเทศที่จะได้รับอานิสงส์จากการบรรลุข้อตกลง TPP มากที่สุดจากอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ที่ลดลงเหลือ 0% คือ เวียดนาม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ขณะที่มาเลเซีย คาดว่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มการเข้าไปลงทุนผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะ ของผู้ผลิตรถญี่ปุ่น สำหรับประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิก TPP คาดว่าในระยะสั้นจะยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากแต่ละประเทศจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ล่าสุดภาคเอกชน นำโดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียด ข้อดีและข้อเสียของการเข้าร่วม TPP รวมถึงการเจรจาข้อตกลง FTA อื่นๆ ด้วย (กรุงเทพธุรกิจ, 7 ต.ค. 2558)