ข่าวเศรษฐกิจ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนา “สแกนความพร้อมไฟฟ้ารับเออีซี” ว่า ปัจจุบันความต้องการใช้ไฟฟ้าของไทยเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยในปี 2554 ไทยมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าราว 2.6 หมื่นเมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 3.2 หมื่นเมกะวัตต์ จึงเกิดความกังวลว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าจะไม่เพียงพอรองรับความต้องการใช้ในอนาคต โดยหากความต้องการใช้ไฟฟ้ายังขยายตัวต่อเนื่อง จะเกิดภาวะเสี่ยงในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากอัตราปริมาณสำรองไฟฟ้าจะลดต่ำกว่าปัจจุบันที่ 16% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ดังนั้น รมว.กระทรวงพลังงานจึงสั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นเป็น 2 หมื่นเมกะวัตต์ โดยเป็นการรับซื้อจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว เพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นเมกะวัตต์ จากปัจจุบันซื้ออยู่ 7 พันเมกะวัตต์ และรับซื้อจากโรงไฟฟ้าถ่านหินและพลังน้ำจากพม่า 1 หมื่นเมกะวัตต์ จากปัจจุบันยังไม่มีการรับซื้อเลย ทั้งนี้ กฟผ. เห็นว่าหากต้องการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น ต้องมีการปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) โดยเพิ่มสัดส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเป็น 20% จากปัจจุบันตั้งเป้าไว้ 15% และต้องมีการแก้ไขบันทึกข้อตกลงการซื้อขายไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ที่ผ่านมาได้ทำข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้ากับพม่าไว้เพียง 1,500 เมกะวัตต์ (กรุงเทพธุรกิจ, 22 พ.ย. 2555)