ข่าวเศรษฐกิจ

กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าสมาชิกหลายรายสนใจจะต่อยอดการผลิตตู้เย็นไปเป็นตู้แช่วัคซีน COVID-19 เพราะไม่ใช่เรื่องยากที่จะพัฒนาต่อยอดจากตู้เย็น ตู้แช่ที่ผลิตกันอยู่ในปัจจุบัน เพียงแต่ต้องปรับปรุง หรือเปลี่ยนบางชิ้นส่วน เพื่อให้ได้เกณฑ์อุณหภูมิตามที่ตู้แช่วัคซีนกำหนด โดยคาดว่าอาจต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีจึงจะผลิตออกมาจำหน่ายได้ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนเกรงว่าหากความต้องการซื้อมีน้อย อาจจะไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนการส่งไปทดสอบ ดังนั้น จึงขอให้ภาครัฐสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ผลิต เช่น มีการลงนามความตกลง (MOU) กับทางกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ ให้ชัดเจนว่า อีก 1 ปีข้างหน้าจะต้องการตู้แช่วัคซีนขั้นต่ำจำนวน 50 หรือ 100 ตู้  ขณะเดียวกัน กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่าตู้แช่วัคซีนปัจจุบันถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในอุปกรณ์อุตสาหกรรมทางการแพทย์ โดยมีมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกจะต้องได้รับการรับรอง และเมื่อได้มาตรฐานสากลนี้แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) แต่จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของตู้เย็นเพื่อแช่วัคซีน อาทิ ตู้เย็นที่อยู่ในคลังของโรงพยาบาล ต้องเป็นชนิดฝาประตูทึบมี 2 ประตูแยกช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น มีความจุอย่างน้อย 18 คิว เพื่อสต็อกวัคซีนให้ลูกข่ายอย่างน้อย 1.5-2 เดือน และต้องเผื่อพื้นที่ในตู้เย็นสำหรับวัคซีนที่ใช้ในการรณรงค์ด้วย และที่สำคัญ ตู้เย็นจะต้องรักษาอุณหภูมิได้คงที่ตลอดปี และต้องเก็บความเย็นได้นาน โดยหากเกิดไฟฟ้าดับควรเก็บความเย็นได้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง (ประชาชาติธุรกิจ, 14-16 ธ.ค. 2563)