Hot Issues

เกาะติดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผลกระทบต่อไทย

ประเด็นสำคัญ

  • ผลการนับคะแนนเบื้องต้นชี้ว่านายไบเดน มีแนวโน้มได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนถัดไป ซึ่งจะเปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายการค้าการลงทุนของสหรัฐฯ ในหลายมิติ
  • นโยบายของนายไบเดน โดยเฉพาะการไม่สนับสนุน Trade War การลงทุนพลังงานสะอาด และนโยบายขึ้นภาษี ต่างสวนทางกับแนวนโยบายที่ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้ในช่วงที่ผ่านมา
  • การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบต่อภาคการส่งออก ตลอดจนทิศทางเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าตามทิศทางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลจากการดำเนินมาตรการทางการคลังที่ผ่อนคลายมากขึ้นของสหรัฐฯ

ผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการชี้ว่านายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับผลสำรวจคะแนนนิยมก่อนหน้าที่เกือบทุกสำนักชี้ว่านายไบเดนจะชนะการเลือกตั้ง โดยพรรคเดโมแครตยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาเช่นเดิม ทั้งนี้ แม้การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าจะยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ให้มีการนับคะแนนใหม่ในรัฐที่มีคะแนนเสียงใกล้เคียงกัน แต่เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากการที่นโยบายของนายไบเดนมีทิศทางที่แตกต่างจากประธานาธิบดีทรัมป์อย่างชัดเจนในหลายประเด็น ผู้ประกอบการจึงควรทำความเข้าใจนโยบายที่สำคัญของนายไบเดน และผลกระทบที่มีต่อไทย หากนายไบเดนได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี

 

ความคิดเห็นของฝ่ายวิจัยธุรกิจ                              

  • เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่องหลังการเลือกตั้ง โดยคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ จะเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ ที่คาดว่าจะมีวงเงินราว 1.8-2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งจะเป็นแรงหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2564 อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ไปจนถึงความเสี่ยงของการพัฒนาวัคซีน COVID-19 ว่าจะสามารถผลิตและใช้ได้จริงในช่วงกลางปี 2564 ตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่
  • อนาคตการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ อาจเผชิญกับการปรับตัวของ Supply Chain โลกอีกครั้ง จากการกลับขึ้นโต๊ะเจรจาข้อตกลงการค้าและการลงทุนของนายไบเดน พร้อมผ่อนคลายการทำสงครามการค้ากับจีน ซึ่งคาดว่าจะกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทย ดังนี้

ทั้งนี้ ไทยอาจต้องกลับมาทบทวนท่าทีในการเข้าร่วมเจรจาข้อตกลงการค้า CPTPP เนื่องจาก CPTPP จะกลับมามีความสำคัญต่อไทยอีกครั้ง หากนายไบเดนนำสหรัฐฯ กลับเข้าร่วมการเจรจา เพราะสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วนราว 13% ของมูลค่าส่งออกของไทยในปี 2562 ทำให้หากไทยไม่เข้าร่วม CPTPP จะส่งผลให้สินค้าไทยหลายรายการเสียแต้มต่อในตลาดสหรัฐฯ ให้กับประเทศคู่แข่งที่เข้าร่วมการเจรจา โดยเฉพาะเวียดนาม ในสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และอาหารทะเลแปรรูป เป็นต้น  

  • เงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้น ตามแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ไม่ว่าภายใต้การนำของนายไบเดนหรือประธานาธิบดีทรัมป์ต่างจะดำเนินมาตรการการคลังแบบผ่อนคลายมากขึ้น ผ่านการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ โดยกรณีนายไบเดนชนะ
    การเลือกตั้ง ในระยะยาวเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่ามากกว่ากรณีประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากนโยบายการขึ้นภาษีของนายไบเดน
    มีแนวโน้มส่งผลให้บริษัทสหรัฐฯ ออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เงินทุนไหลออกจากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม กรณีประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ค่าเงินบาทมีแนวโน้มผันผวนตามตลาดเงินและตลาดทุนจากการพลิกความคาดหมายของผลการเลือกตั้ง รวมทั้งความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนภายใต้การดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและยากจะคาดเดา ตลอดจนความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
เอกสาร
ที่เกี่ยวข้อง
Related
more icon
Most Viewed
more icon
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products