Hot Issues
ประเด็นสำคัญ
- ความตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหาโลกร้อนทำให้ประเทศมหาอำนาจส่วนใหญ่จริงจังกับเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions) ภายในปี 2593
- เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว พลังงานจากฟอสซิลจะเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบสูงสุด ขณะที่พลังงานหมุนเวียนและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลบวกชัดเจนกว่าอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมประเภทอื่น
- อย่างไรก็ตาม ในช่วงเปลี่ยนผ่านก๊าซธรรมชาติจะมีบทบาทเพิ่มขึ้นแทนน้ำมัน เพราะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีดักจับคาร์บอน ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาที่ยังต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงราคาต่ำ และประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้หลักจากฟอสซิล อาจจะเริ่มดำเนินการช้ากว่าประเทศอื่น
- การขนส่ง ทั้งรถบรรทุก เรือ และเครื่องบิน เป็นภาคที่ปรับใช้ EV ได้น้อยในช่วงแรก เนื่องจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ EV และน้ำหนักของแบตเตอรี่ โดยในระยะสั้นคาดว่ากลุ่มนี้จะลดการปล่อยคาร์บอนด้วยการเปลี่ยนไปใช้น้ำมันที่มีคุณภาพดีขึ้นหรือเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuels) แทน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ปัญหาโลกร้อน การลดการปล่อยคาร์บอน และอนาคตพลังงานโลก
- ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (โลกร้อน) ทำให้ประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ลดคาร์บอน) มากขึ้น British Petroleum (BP) หนึ่งในบริษัทพลังงานรายใหญ่ของโลกได้คาดการณ์ผลกระทบของปัญหาโลกร้อน ว่าหากโลกร้อนขึ้นต่อเนื่อง ระดับ GDP ของบางประเทศอาจลดลงถึง 11% เมื่อเทียบกับกรณีที่อุณหภูมิของโลกคงที่อยู่ในระดับปัจจุบันไปจนถึงปี 2593 ด้วยเหตุนี้การลดคาร์บอน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญที่ทั่วโลกจะต้องร่วมมือกันทำให้เกิดขึ้น โดยประเทศสำคัญส่วนใหญ่ได้ตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิ (Net-Zero Emissions) ให้เหลือศูนย์ภายในปี 2593 ยกเว้นจีน ที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2603
- การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นทางเลือกสำคัญในการชะลอการปล่อยคาร์บอน เนื่องจากทำได้ง่ายและน่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด ประกอบกับการผลิตพลังงาน (รวมถึงพลังงานที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม) และการขนส่ง เป็นกิจกรรมที่ปล่อยคาร์บอนรวมกันสูงถึงเกือบ 3 ใน 4 ของการปล่อยคาร์บอนทั้งหมด
- หากโลกบรรลุเป้าลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิให้เป็นศูนย์ พลังงานหมุนเวียนจะกลายเป็นพลังงานหลักของโลก ด้วยสัดส่วนราว 2 ใน 3 ในปี 2593 ขณะที่น้ำมันและก๊าซธรรมชาติซึ่งเดิมมีบทบาทสูงมาก ในกิจกรรมที่ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ โดยเฉพาะการขนส่ง จะถูกทดแทนด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพ อย่างไรก็ตาม บทบาทของก๊าซธรรมชาติในช่วงต้นซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition Period) จะยังเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ดักจับคาร์บอน (CCUS) ทำให้สามารถใช้ก๊าซธรรมชาติได้โดยปล่อยคาร์บอนต่ำ ก่อนที่บทบาทของก๊าซธรรมชาติจะค่อยๆ ปรับลดลงในระยะยาว
ผลกระทบต่อภาคธุรกิจจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงานโลก
ประเด็นที่น่าสนใจ
- พลังงานจากแสงอาทิตย์และลมจะเป็นแหล่งพลังงานที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในช่วง 10 ปีข้างหน้า ด้วยอัตราการขยายตัวปีละ 21% และ 17% ตามลำดับ
- การใช้ฟอสซิลมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ประเทศกำลังพัฒนาที่ยังต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งมีราคาต่ำ และประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้หลักจากฟอสซิล อาจเริ่มลดการปล่อยคาร์บอนช้ากว่าประเทศอื่น
- ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System : ESS) จะเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น เนื่องจากพลังงานที่ผลิตได้จากลมและแสงอาทิตย์ไม่สม่ำเสมอ จึงต้องมี ESS ไว้ช่วยสำรองพลังงานและจ่ายไฟฟ้าในเวลาที่ผู้ใช้ต้องการ
ประเด็นที่น่าสนใจ
- EV จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นในตลาดรถยนต์ส่วนบุคคล Deloitte คาดว่ายอดจำหน่าย EV โลก จะเพิ่มขึ้นเป็น 32% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในปี 2573 อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 ปีข้างหน้าการใช้ EV ราว 90% จะกระจุกตัวอยู่ในจีน EU และสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่ตลาดส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนหลักของไทย ทำให้ผลกระทบต่อการส่งออกไม่สูงนัก
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ตั้งเป้าผลิต EV อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ใหม่ภายในปี 2573 และจะติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์นั่งและรถกระบะ รวม 12,000 หัวจ่ายทั่วประเทศ และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swap) สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารับจ้างและส่งสินค้า Delivery รวม 1,450 แห่ง ภายในปี 2573 - รถยนต์บรรทุกไฟฟ้ายังเติบโตได้อย่างจำกัดในช่วงแรก โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักบรรทุกมากหรือต้องวิ่งระยะไกลเกินกว่าจะใช้แบตเตอรี่ โดยคาดว่าทางออกในระยะสั้น (ก่อนปี 2573) จะเป็นการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuels) ซึ่งปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าน้ำมันดีเซล ส่วนในระยะยาว (หลังจากปี 2573) คาดว่ารถบรรทุกไฟฟ้าและรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากไฮโดรเจน (Fuel Cell) จะเพิ่มขึ้นตามราคาแบตเตอรี่ที่ลดลง และเทคโนโลยีต่างๆ ที่พัฒนาขึ้น
- การลงทุนสำรวจและขุดเจาะแหล่งปิโตรเลียมใหม่มีแนวโน้มลดลง ตามความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ในปี 2593 ที่คาดว่าจะลดลงเหลือเพียง 25% และ 45% ของความต้องการใช้ในปี 2563 ตามลำดับ จึงแทบไม่จำเป็นต้องมีโครงการลงทุนสำรวจและขุดเจาะแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมจากแหล่งที่ได้รับการอนุมัติแล้วอีก แต่ยังคงต้องลงทุนสำหรับการขุดเจาะในแหล่งที่ทำการผลิตอยู่ต่อไป
Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายและการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด
Icons made by Flat Icons, Freepik, itim2101, monkik, surang and xnimrodx from www.flaticon.com
ที่เกี่ยวข้อง
-
ปัญหาขาดแคลนชิปยืดเยื้อต่อในปี 2565 ... ผลกระทบต่อผู้ผลิตในไทย
ประเด็นสำคัญ ปัญหาขาดแคลนชิปซึ่งเกิดขึ้นมาแล้วราว 1 ปี ยังมีแนวโน้มยืดเยื้อต่อในปี 2565 จึงคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกที่มีชิปเป็นส่วนประกอบ อาทิ รถยนต์และชิ้นส่วน และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในด้านต...
08.12.2021 -
การส่งออกสินค้าไทยท่ามกลางตลาดส่งออกที่ฟื้นตัวไม่เท่ากัน
ประเด็นสำคัญ ความไม่เท่าเทียมกันของการเข้าถึงวัคซีนเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ความเร็วในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน 9 ตลาดส่งออกสำคัญของไทยอย่างจีน เวียดนาม ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย มาเลเซีย ออสเตรเลีย ...
20.04.2021
-
ถอดนโยบายประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อไขผลกระทบต่อการค้า การลงทุนของไทย
ประเด็นสำคัญ นโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลใหม่ มีความชัดเจนขึ้นหลังประธานาธิบดีไบเดนขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยในภาพรวมนโยบายสำคัญส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปตามที่หาเสียงไว้ ทิศทางนโยบายด้านการค้ามีความชัดเจนแล้วว่าจะม...
25.01.2021 -
จับตาผลกระทบทุเรียนไทย ... เมื่อจีนเปิดรับทุเรียนแช่แข็งจากมาเลเซีย
สถานการณ์สำคัญ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 จีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าทุเรียนสดและทุเรียนแช่แข็งรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยสัดส่วนการนำเข้ารวมกันกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่านำเข้าโลก ยอมเปิดตลาดสินค้า (Trade Liberalization) ให้ท...
16.10.2019 -
การแพร่ระบาดของ COVID-19 กับผลกระทบต่อเศรษฐกิจ EU
ประเด็นสำคัญ สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ใน EU ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ. 2563 การแพร่ระบาดเป็นปัจจัยบั่นท่อนเศรษฐกิจ EU โดยจะส่งผลกระทบต่อภา...
24.03.2020