ข่าวเศรษฐกิจประเทศเป้าหมาย Home ข่าวเศรษฐกิจประเทศเป้าหมาย เลือกประเทศเป้าหมาย ; Cambodia ; Ethiopia ; India ; Kenya ; Lao People's Democratic Republic ; Mozambique ; Myanmar ; Vietnam ; Tanzania United Republic of ; Africa search SCG Chemicals ตั้ง 3 บริษัทย่อยลุยธุรกิจต่างประเทศ-ลงทุน Startups บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด จัดตั้งบริษัท SCG Chemicals Shanghai Company Limited (SCG Chem Shanghai) ที่เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายโพลิเมอร์และส่งเสริมความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง รวมทั้งเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการติดตามความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมและกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในจีน ซึ่งข้อมูลที่ได้จะถูกนำมาใช้ในการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อเพิ่มยอดจำหน่าย โดยเฉพาะสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง (High Value Added Product) นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งบริษัท SENFI Ventures Company Limited (SENFI Ventures) ในไทย เพื่อลงทุนใน Startups แบบร่วมลงทุนกับคู่ธุรกิจ (Venture Capital) เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเคมิคอลส์ ผ่านการเข้าถึงนวัตกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต และจัดตั้งบริษัท REPCO NEX (Vietnam) Company Limited (RNV) ที่เวียดนาม เพื่อให้บริการบำรุงรักษาเครื่องจักรแก่ Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) และขยายธุรกิจการให้บริการวิศวกรรมและซ่อมบำรุงไปยังประเทศเวียดนาม (www.bangkokbiznews.com, 13 ธ.ค. 2564) 14.12.2021 807 ก.พาณิชย์แจ้งมาตรการการค้าใหม่ปี 2565 จากประเทศคู่ค้า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2565 หลายประเทศจะออกระเบียบใหม่เกี่ยวกับสินค้า อาทิ -รถยนต์ เวียดนามออกระเบียบว่าด้วยการปล่อยมลพิษทางอากาศ ซึ่งกำหนดให้รถยนต์ที่ประกอบ ผลิต และนำเข้า ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 -เครื่องปรับอากาศ อินเดียกำหนดให้สินค้าที่ผลิตหรือนำเข้าต้องได้รับการรับรองมาตรฐานและตีตราสัญลักษณ์จากสถาบันมาตรฐานอินเดีย (BIS) -สินค้าอาหาร จีนออกระเบียบ Decree 248 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 โดยกำหนดให้ผู้ผลิตอาหารจากต่างประเทศใน 18 กลุ่มสินค้า อาทิ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์นม ผักสดและผักอบแห้ง เครื่องปรุงรส และอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบก่อนส่งไปจีน ส่วนของประเทศที่ออกกฎระเบียบการค้าใหม่ในปี 2565 อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำหนดให้สินค้าอาหารที่ผลิตในประเทศและนำเข้า ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง และอาหารเหลว ต้องติดฉลากโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์แสดงข้อมูลไขมัน ไขมันอิ่มตัว น้ำตาลทราย เกลือ และแคลอรี มีผลใช้บังคับ 1 ม.ค. 2565 และ EU ออกกฎระเบียบควบคุมการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ผลิตในประเทศและนำเข้า อาทิ ผลิตภัณฑ์แปรรูปเกษตรอินทรีย์ต้องใช้วัตถุดิบเกษตรอินทรีย์ 95% (คิดตามน้ำหนัก) ระบุแหล่งผลิตบนฉลาก และต้องใช้สารแต่งกลิ่นจากธรรมชาติเท่านั้น มีผลใช้บังคับ 1 ม.ค. 2565 13.12.2021 681 สคต. ณ นครเวียงจันทน์ เผยจีนยังอยู่ระหว่างเตรียมงานด้านการตรวจสอบสินค้าภายในด่านรถไฟโม่ฮ่าน สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เปิดเผยถึงกรณีการเปิดใช้เส้นทางรถไฟจีน-ลาวว่า ล่าสุดจีนยังอยู่ระหว่างเตรียมงานด้านการตรวจสอบสินค้าต่างๆ ภายในด่านรถไฟโม่ฮ่าน (Mohan) อาทิ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ สัตว์น้ำแช่แข็ง ธัญพืช ผลไม้ ต้นกล้าไม้ ไม้ซุง และสินค้าปศุสัตว์และพืชอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 ทำให้ผู้ส่งออกไทยส่งออกสินค้าผ่านเส้นทางดังกล่าวได้ทันที โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่จะส่งไปจีนได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น (ประชาชาติธุรกิจ, 13-15 ธ.ค. 2564) 13.12.2021 585 WICE คาดรายได้ไตรมาส 4/2564 เติบโตต่อเนื่อ บริษัท ไวส์โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE คาดว่า รายได้ในไตรมาส 4/2564 จะเติบโตต่อเนื่องจากปริมาณขนส่งที่เพิ่มขึ้นทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ขนส่งทางทะเล ขนส่งทางอากาศ บริการด้าน Supply Chain และบริการขนส่งข้ามแดน ประกอบกับคาดว่าค่าระวางเรือจะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไปถึงกลางปี 2565 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ขยายบริการขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (Less Truck Load Service : LTL) เพื่อเพิ่มโอกาสรับงานที่หลากหลาย โดยตั้งเป้าให้บริการเดือนละ 65 เที่ยว อีกทั้งมีแผนขยายเส้นทางให้บริการขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal Services) ซึ่งเป็นการขนส่งทางรถจากมาเลเซียไปรถไฟ สปป.ลาว–จีน ซึ่งเชื่อมเส้นทางโครงการ One Belt One Road จากจีนถึงตะวันออกกลางและทวีปยุโรปในอนาคต (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, 9 ธ.ค. 2564) 09.12.2021 561 สรท. ปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกปี 2564 เป็นขยายตัว 15% สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 2564 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 12% เป็น 15% และคาดการณ์การส่งออกปี 2565 ขยายตัว 5-8% (ณ เดือนธันวาคม 2564) โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญในปี 2564 อาทิ ความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่เริ่มแพร่กระจายในหลายประเทศ ทำให้หลายประเทศเริ่มกลับมาจำกัดการเดินทาง โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกา และมีความเป็นไปได้ที่หลายประเทศอาจ Lockdown อีกครั้ง ปัญหาแรงงานในภาคการผลิตขาดแคลนต่อเนื่องและต้นทุนการจ้างงานสูงขึ้น กระทบต่อการผลิตเพื่อส่งออก ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ตกค้าง ณ ท่าเรือปลายทาง โดยเฉพาะท่าเรือ Los Angeles และ Long Beach ที่พบปัญหาความหนาแน่นภายในท่าเรือ รวมถึงปัญหา Space Allocation ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถจองระวางและส่งสินค้าได้ทันตามกำหนด รวมทั้งค่าระวางเรือที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทาง EU และสหรัฐฯ รวมถึงจีนที่เร่งนำเข้าสินค้าในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและตรุษจีน ส่งผลให้บางสายการเดินเรือหยุดให้บริการจองระวางชั่วคราว นอกจากนี้ ยังมีปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนและราคาผันผวน อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ เหล็ก และน้ำมัน ส่งผลให้ภาคการผลิตเพื่อส่งออกยังประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง (www.thansettakij.com, 7 ธ.ค. 2564) 08.12.2021 567 อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต ทุ่มงบผลิตเรือโดยสารไฟฟ้า 15 ลำ ในปี 2565 บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่าในปี 2565 บริษัทฯ มีแผนลงทุนต่อเรือโดยสารไฟฟ้ารุ่นใหม่อีก 15 ลำ มูลค่าลงทุนกว่า 400 ล้านบาท สำหรับนำมาให้บริการในเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2565 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนรุกตลาดเรือโดยสารไฟฟ้าในเวียดนามและเมียนมา ในรูปแบบเข้าไปสนับสนุนเรือโดยสารไฟฟ้าหรือร่วมลงทุนให้บริการเดินเรือร่วมกับผู้ประกอบการเดินเรือในแม่น้ำไซ่ง่อน (เวียดนาม) และแม่น้ำอิระวดี (เมียนมา) (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, 6 ธ.ค. 2564) 07.12.2021 327 BGRIM เปิดแผนลงทุนปี 2565 ดันกำลังผลิตไฟฟ้าแตะ 7,000 MW ในปี 2568 บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯ มีแผนลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียนเพื่อบรรลุเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 7,000 เมกะวัตต์ (MW) ในปี 2568 จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 3,000 MW สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทฯ สนใจลงทุนโครงการโซลาร์ลอยน้ำที่ฟิลิปปินส์ รวมทั้งมองโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมในเวียดนาม และอยู่ระหว่างศึกษาตลาดเมียนมา ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนอีก 2 โครงการในโปแลนด์ กำลังการผลิตรวม 70 MW ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตจากภาครัฐ ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ZEL1 กําลังการผลิต 14.1 MW ในโปแลนด์ ที่ซื้อหุ้นมาก่อนหน้านี้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2565 และรับรู้รายได้ภายในปี 2566 ส่วนในประเทศไทย บริษัทฯ เจรจากับกลุ่มเซ็นทรัลติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) รวมทั้งการตั้งโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่นำเข้ามาใช้ผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในราคาต่ำกว่าที่ซื้อจากระบบ นอกจากนี้ ยังเป็นพันธมิตรกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) คาดว่าจะประกาศความร่วมมือลงทุนโครงการร่วมกันในปี 2565 (https://mgronline.com, 6 ธ.ค. 2564) 07.12.2021 703 TOA เดินหน้าลงทุนรับเศรษฐกิจฟื้นในปี 2565 บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้ผลิตสีทาอาคารรายใหญ่ เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯ มียอดจำหน่ายขยายตัว 6% สวนทางกับภาพรวมตลาดที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ส่วนหนึ่งเนื่องจากได้แรงหนุนจากธุรกิจวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ของบริษัทฯ อาทิ เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง ยิปซัม และกระเบื้อง ที่เข้ามาช่วยเสริมยอดจำหน่ายรวมให้ยังคงขยายตัวได้ และคาดว่าในปี 2565 ธุรกิจสีทาอาคารและวัสดุก่อสร้างจะค่อยๆ ฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19 ที่คาดว่าจะผ่อนคลายลง สำหรับแผนลงทุนในปี 2565 ของ TOA จะเน้นปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อรองรับการขยายงาน โดยใช้งบลงทุนรวม 800 ล้านบาท ดังนี้ 1) ขยายคลังสินค้าที่นครโฮจิมินห์ ในเวียดนาม 2) สร้างโรงงานผลิตเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง เพื่อผลิตปูนกาวและเคมีภัณฑ์ก่อสร้างชนิด Power Base แทนการ OEM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการทำกำไรจากสินค้ากลุ่มนี้ 3) ปรับปรุงคลังสินค้าให้เป็นระบบอัตโนมัติและปรับปรุงโรงงานผลิตที่สำโรง (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, 3 ธ.ค. 2564) 03.12.2021 541 BPP ลงทุนโซลาร์ฟาร์มแห่งแรกในเวียดนาม บริษัท BRE Singapore Pte. Ltd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท บ้านปูเน็กซ์ จํากัด (ซึ่งบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP และบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ถือหุ้นเท่ากันในสัดส่วน 50:50) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายบริษัท Ha Tinh Solar Power Joint Stock company ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Ha Tinh ขนาดกําลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ (MW) ในจังหวัด Ha Tinh ประเทศเวียดนาม ด้วยมูลค่าลงทุน 23.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 788 ล้านบาท) คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 1/2565 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ BPP ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนามเพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าดังกล่าวเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 มีราคารับซื้อไฟฟ้า (FIT) กิโลวัตต์ชั่วโมงละ 9.35 เซนต์สหรัฐ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity: EVN) เป็นเวลา 20 ปี นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2564 BPP ยังได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เคเซนนุมะ (Kesennuma) ในญี่ปุ่น ขนาดกำลังผลิต 20 MW ส่งผลให้ปัจจุบัน BPP มีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการลงทุนรวม 3,357 เมกะวัตต์เทียบเท่า และยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 2 แห่ง ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชิราคาวะ (Shirakawa) ในญี่ปุ่น กำลังผลิต 10 MW และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหวินเจา (Vinh Chau) ระยะที่ 1 ในเวียดนาม กำลังผลิต 30 MW ซึ่งคาดว่าจะ COD ในไตรมาส 1/2565 (www.bangkokbiznews.com และ www.ryt9.com, 2 ธ.ค. 2564) 03.12.2021 513 link อื่นๆ more Financial Products more ดู Links ทั้งหมด