ข่าวเศรษฐกิจ
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประเมินอุตสาหกรรมดาวเด่นที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตท่ามกลางสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าในปี 2554 ได้แก่
1. อุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากตลาดส่วนใหญ่อยู่ในอาเซียน ซึ่งได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนใกล้เคียงกัน
2. อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับหลายอุตสาหกรรมในตลาดโลก ซึ่งยังมีความต้องการสูง แต่มีปัจจัยเสี่ยงจากการขาดแคลนแรงงาน
3. อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง เนื่องจากความต้องการจากจีนยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับข้อตกลง FTA ช่วยผลักดันให้การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว
4. อุตสาหกรรมพลาสติก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีความต้องการใช้ชิ้นส่วนพลาสติกสูง
5. อุตสาหกรรมเหล็ก คาดว่าจะขยายตัวตามโครงการก่อสร้างต่างๆ โดยเฉพาะโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ
นอกจากนี้ ส.อ.ท. ประเมินอุตสาหกรรมที่ต้องเฝ้าระวังในปี 2554 ได้แก่
1. อุตสาหกรรมอาหาร ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า เนื่องจากตลาดหลักคือสหรัฐฯ รวมถึงได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี
2. อุตสาหกรรมสิ่งทอ เนื่องจากตลาดหลัก คือ สหรัฐฯ และยุโรป ประกอบกับราคาฝ้ายดิบในตลาดโลกปรับสูงขึ้น
(ฐานเศรษฐกิจ, 17-20 ต.ค. 2553)
1. อุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากตลาดส่วนใหญ่อยู่ในอาเซียน ซึ่งได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนใกล้เคียงกัน
2. อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับหลายอุตสาหกรรมในตลาดโลก ซึ่งยังมีความต้องการสูง แต่มีปัจจัยเสี่ยงจากการขาดแคลนแรงงาน
3. อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง เนื่องจากความต้องการจากจีนยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับข้อตกลง FTA ช่วยผลักดันให้การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว
4. อุตสาหกรรมพลาสติก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีความต้องการใช้ชิ้นส่วนพลาสติกสูง
5. อุตสาหกรรมเหล็ก คาดว่าจะขยายตัวตามโครงการก่อสร้างต่างๆ โดยเฉพาะโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ
นอกจากนี้ ส.อ.ท. ประเมินอุตสาหกรรมที่ต้องเฝ้าระวังในปี 2554 ได้แก่
1. อุตสาหกรรมอาหาร ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า เนื่องจากตลาดหลักคือสหรัฐฯ รวมถึงได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี
2. อุตสาหกรรมสิ่งทอ เนื่องจากตลาดหลัก คือ สหรัฐฯ และยุโรป ประกอบกับราคาฝ้ายดิบในตลาดโลกปรับสูงขึ้น
(ฐานเศรษฐกิจ, 17-20 ต.ค. 2553)