ข่าวเศรษฐกิจ
เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) เปิดเผยว่าสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลควรปรับตัวใน 3 ด้าน ได้แก่
1) ปรับตัวด้านการส่งออก เน้นส่งออกไปตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เช่น อาเซียน จีน อินเดีย และออสเตรเลีย รวมถึงหาแนวทางปรับขึ้นราคาสินค้าในเทอมดอลลาร์สหรัฐให้สอดคล้องกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เช่น ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในการผลักดันราคายางพาราและราคาข้าวให้สูงขึ้น
2) ปรับโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ควรเร่งดำเนินการโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการลงทุนด้านการเกษตร และระบบโลจิสติกส์
3) ปรับนโยบายการลงทุนของประเทศ ลดสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อลดปริมาณเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ประเทศ รวมทั้งภาครัฐควรมีมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักลงทุนไทยสามารถไปลงทุนในต่างประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น สร้างกลไกหรือหน่วยงานอำนวยความสะดวกสำหรับการไปลงทุนในต่างประเทศ และมาตรการทางภาษีที่สนับสนุน
นอกจากนี้ CP ยังมองว่ามีโอกาสที่เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นอีกจนอาจหลุดกรอบ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแตะระดับ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐภายในปลายปี 2553 (โพสต์ทูเดย์, 28 ก.ย. 2553)
1) ปรับตัวด้านการส่งออก เน้นส่งออกไปตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เช่น อาเซียน จีน อินเดีย และออสเตรเลีย รวมถึงหาแนวทางปรับขึ้นราคาสินค้าในเทอมดอลลาร์สหรัฐให้สอดคล้องกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เช่น ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในการผลักดันราคายางพาราและราคาข้าวให้สูงขึ้น
2) ปรับโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ควรเร่งดำเนินการโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการลงทุนด้านการเกษตร และระบบโลจิสติกส์
3) ปรับนโยบายการลงทุนของประเทศ ลดสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อลดปริมาณเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ประเทศ รวมทั้งภาครัฐควรมีมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักลงทุนไทยสามารถไปลงทุนในต่างประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น สร้างกลไกหรือหน่วยงานอำนวยความสะดวกสำหรับการไปลงทุนในต่างประเทศ และมาตรการทางภาษีที่สนับสนุน
นอกจากนี้ CP ยังมองว่ามีโอกาสที่เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นอีกจนอาจหลุดกรอบ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแตะระดับ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐภายในปลายปี 2553 (โพสต์ทูเดย์, 28 ก.ย. 2553)