ข่าวเศรษฐกิจ
สภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า พื้นที่ปลูกยางพาราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่มีพื้นที่กรีดได้ 16 ล้านไร่ในปี 2556 เป็น 18 ล้านไร่ในปี 2558 และผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านตัน เป็น 4.5 ล้านตันในช่วงเดียวกัน ส่งผลให้ราคายางพาราปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่าราคายางพาราที่เกษตรกรขายได้ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว และมีแนวโน้มจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีก 4 ปี ดังนั้น เกษตรกรจึงควรปรับตัวโดยจัดรูปแบบการทำสวนยางพาราใหม่ จากที่เคยปลูกยางพาราอย่างเดียว (เกษตรเชิงเดี่ยว) เป็นการปลูกควบคู่กับพืชชนิดอื่นหรือการเลี้ยงสัตว์ (เกษตรเชิงคู่หรือเกษตรผสมผสาน) เพื่อเป็นอาชีพเสริม ซึ่งสภาฯ จะเสนอเรื่องนี้แก่การยางแห่งประเทศไทยพิจารณาต่อไป รวมทั้งเสนอให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อสำหรับประกอบอาชีพเสริมเพิ่มจากเดิม 1 หมื่นล้านบาท เป็น 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรกู้รายละไม่เกิน 1 แสนบาท (กรุงเทพธุรกิจ, 24 ธ.ค. 2558)