เกร็ดการเงินระหว่างประเทศ
เวียดนามเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองและปกป้องสิทธิ์แรงงานค่อนข้างมาก ทำให้นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจกฎหมายแรงงานของเวียดนามให้ละเอียดถี่ถ้วน ทั้งนี้ เวียดนามประกาศใช้กฎหมายแรงงาน (Labour Code) ครั้งแรกเมื่อปี 2537 และมีการปรับปรุงแก้ไขมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาเวียดนามได้เร่งขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ทำให้มีการลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศและกลุ่มประเทศหลายฉบับ โดยข้อตกลง Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership (CPTPP) และข้อตกลงเขตการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องปฏิบัติตามมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศที่กำหนดโดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) ทำให้เวียดนามต้องปรับปรุงกฎหมายแรงงานให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของ ILO ที่บังคับให้มีการปกป้องและคุ้มครองสิทธิ์แรงงานมากขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 รัฐสภาเวียดนามได้เห็นชอบอนุมัติกฎหมายแรงงานฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (Labor Code No. 45/2019/QH14) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2564 โดยมีรายละเอียดครอบคลุมประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
- การให้ความคุ้มครองสิทธิ์ของผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Freelance) จากเดิมที่ผู้ประกอบอาชีพอิสระถือเป็นแรงงานนอกระบบที่ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง จึงไม่ได้รับสิทธิ์คุ้มครองตามกฎหมายแรงงานเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้ประกอบอาชีพอิสระในเวียดนามมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้กฎหมายแรงงานฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมีการคุ้มครองสิทธิ์ตามกฎหมายให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระด้วย
- การเพิ่มวันหยุดราชการอีก 1 วัน กฎหมายแรงงานฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันหยุดราชการสำหรับวันชาติเวียดนาม (National Independence Day) เพิ่มอีก 1 วัน จากเดิมที่มีการหยุดวันชาติในวันที่ 2 กันยายนของทุกปี โดยเพิ่มให้หยุดในวันที่ 1 หรือ 3 กันยายนของทุกปี ขึ้นอยู่กับคำสั่งของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ส่งผลให้เวียดนามมีวันหยุดราชการเพิ่มขึ้นจาก 10 วันต่อปี เป็น 11 วันต่อปี
- การขยายระยะเวลาในช่วงทดลองงาน จากเดิมที่แรงงานจะถูกกำหนดระยะทดลองงานไว้ในช่วง 6-60 วัน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติในตำแหน่งที่สมัครงาน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าระยะเวลาทดลองงานดังกล่าวค่อนข้างสั้นและมีเวลาไม่เพียงพอสำหรับนายจ้างที่จะฝึกงานและประเมินความเหมาะสมของพนักงานตามมาตรฐานของบริษัท กฎหมายแรงงานฉบับแก้ไขเพิ่มเติมจึงขยายเวลาทดลองงานเป็นสูงสุด 180 วันสำหรับลูกจ้างในระดับจัดการ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้ลูกจ้างมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาจ้างในช่วงระหว่างทดลองงานโดยไม่ต้องระบุเหตุผล แต่ต้องแจ้งให้นายจ้างทราบภายในระยะเวลาที่กำหนด
- การเพิ่มจำนวนชั่วโมงการทำงานล่วงเวลา กฎหมายแรงงานฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมีการกำหนดชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาที่ชัดเจนขึ้น โดยจำกัดให้ลูกจ้างสามารถทำงานล่วงเวลาได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของเวลาทำงานปกติในแต่ละวัน และ 40 ชั่วโมงต่อเดือน และ 200 ชั่วโมงต่อปี อย่างไรก็ตาม ในกรณีลูกจ้างที่ทำงานในอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อส่งออก ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และสินค้าเกษตรแปรรูป รวมถึงลูกจ้างที่มีคุณสมบัติในการทำงานที่ใช้ความชำนาญขั้นสูง ถือเป็นกรณีพิเศษ โดยสามารถทำงานล่วงเวลาได้ไม่เกิน 300 ชั่วโมงต่อปี
- การขยายอายุเกษียณ กฎหมายแรงงานฉบับแก้ไขเพิ่มเติมจะขยายอายุเกษียณสำหรับแรงงานชายจาก 60 ปี และแรงงานหญิงจาก 55 ปีในปัจจุบัน เป็น 62 ปี และ 60 ปี ตามลำดับ โดยการปรับเพิ่มอายุเกษียณจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ทันทีที่กฎหมายแรงงานฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมีผลบังคับใช้ โดยในปี 2564 อายุเกษียณสำหรับแรงงานชายจะปรับเพิ่มเป็น 60 ปี 3 เดือน สำหรับแรงงานหญิงจะปรับเพิ่มเป็น 55 ปี 4 เดือน หลังจากนั้นอายุเกษียณสำหรับแรงงานชายจะปรับเพิ่มขึ้นปีละ 3 เดือน จนกระทั่งครบ 62 ปี ในปี 2571 และสำหรับแรงงานหญิงจะปรับขึ้นปีละ 4 เดือน จนกระทั่งครบ 60 ปี ในปี 2578 ทั้งนี้ สำหรับแรงงานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายหรือทำงานที่ต้องใช้ร่างกายหนักสามารถเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retirement) แต่ต้องไม่เกิน 5 ปีก่อนครบอายุเกษียณตามปกติ
- การอนุญาตให้ลูกจ้างสามารถจัดตั้งองค์กรตัวแทนลูกจ้าง (Representative Organizations) ของตนเอง ปัจจุบันเวียดนามมีองค์กรตัวแทนลูกจ้างเพียงแห่งเดียว คือ Vietnam General Confederation of Labour (VGCL) ซึ่งเป็นของรัฐบาล โดยดูแลลูกจ้างทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ภายใต้ข้อตกลง CPTPP และ EVFTA รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับการให้สัตยาบันภายใต้อนุสัญญา ILO ของรัฐบาลเวียดนาม กฎหมายแรงงานฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของเวียดนามจึงอนุญาตให้ลูกจ้างมีสิทธิ์จัดตั้งองค์กรตัวแทนลูกจ้างของตนเองขึ้น ซึ่งการดำเนินงานจะเป็นอิสระจาก VGCL เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการเจรจาต่อรองร่วมกันสำหรับแรงงาน โดยการจัดตั้งองค์กรตัวแทนลูกจ้างต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบและดำเนินการตามข้อบังคับที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีกฎหมายแรงงานที่เข้มงวดกว่าประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศ สะท้อนให้เห็นได้จากการอนุญาตให้แรงงานหญิงสามารถลาคลอดบุตรและยังได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน รวมถึงการปกป้องลูกจ้างจากการถูกไล่ออกหรือถูกลงโทษจากนายจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าไปขยายธุรกิจในเวียดนามควรศึกษาและเข้าใจกฎหมายแรงงานเวียดนาม โดยเฉพาะกฎเกณฑ์ใหม่ๆ เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ์ของแรงงานให้ดี เพื่อให้การบริหารจัดการแรงงานเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งอันจะนำไปสู่ข้อพิพาทด้านแรงงานตามมา
ที่เกี่ยวข้อง
-
ส่องตลาดสินค้าออนไลน์ในเวียดนาม....เติบโตสวนกระแส COVID-19
เวียดนามถือเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ที่มีเพียง 328 ราย โดยไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อดังกล่าว อย่...
01.07.2020 -
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างแรงงานในเวียดนาม
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เวียดนามประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) คือ การเป็นประเทศที่มีตลาดแรงงานขนาดใหญ่ ทำให้มีแรงงานจำนวนมากที่พร้อมทำงาน ประกอบกับมีค่าจ้างแรงงานที่ค่อนข้างต่ำ เวียดนา...
01.04.2019
-
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างแรงงานในเวียดนาม
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เวียดนามประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) คือ การเป็นประเทศที่มีตลาดแรงงานขนาดใหญ่ ทำให้มีแรงงานจำนวนมากที่พร้อมทำงาน ประกอบกับมีค่าจ้างแรงงานที่ค่อนข้างต่ำ เวียดนา...
01.04.2019 -
เอกสารสำคัญที่ควรรู้ก่อนลงทุนใน สปป.ลาว
เมื่อผู้ประกอบการตัดสินใจออกไปลงทุนในต่างประเทศ การปฏิบัติตามขั้นตอนการขออนุญาตลงทุนเป็นเสมือนหน้าด่านที่จะสื่อให้เห็นถึงความตั้งใจในการปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศที่เข้าไปลงทุน ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาให้ละเอียดและทำความเข...
01.07.2019 -
Q&A ประเด็นน่ารู้เกี่ยวกับการหาพื้นที่ลงทุนใน สปป.ลาว
การหาพื้นที่เพื่อตั้งกิจการนับเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการออกไปลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากแต่ละประเทศมีกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องที่ดินที่แตกต่างกัน ไม่เว้นแม้แต่ใน สปป.ลาว ที่เป็นตลาดบ้านใกล้เรือนเค...
01.04.2019