Hot Issues

ประเมินผลกระทบหากฟิลิปปินส์ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากไทย

สถานการณ์สำคัญ

รัฐบาลฟิลิปปินส์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากไทยภายในช่วงต้นปี 2563 โดยให้เหตุผลว่าเพราะไทยไม่ยอมปฏิบัติตามคำตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO) ที่ระบุว่าไทยเก็บภาษีนำเข้าบุหรี่จากฟิลิปปินส์อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ท่ามกลางสภาพตลาดรถยนต์โลกที่ซบเซา เพราะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอการขยายตัว และคู่ค้ารถยนต์สำคัญของไทยหลายประเทศได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน จึงมีความกังวลว่าหากฟิลิปปินส์เก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากไทยอาจเป็นปัจจัยบั่นทอนใหม่ที่จะกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ของไทยในปี 2563  

ข้อคิดเห็นจากฝ่ายวิจัยธุรกิจ

     การตอบโต้ของฟิลิปปินส์ด้วยการขู่ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากไทย นับเป็นการเพิ่มแรงกดดันสำคัญให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ เนื่องจากฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกรถยนต์สำคัญอันดับ 2 มีส่วนแบ่งตลาด 12% ของมูลค่าส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของไทย

     อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยธุรกิจคาดว่าการปรับขึ้นภาษีจะส่งผลกระทบต่อรถยนต์ส่งออกของไทยในระดับที่แตกต่างกัน โดยรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (HS 8703) จะได้รับผลกระทบค่อนข้างสูง เพราะไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์ราว 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 60-70% ของมูลค่าส่งออกรถยนต์ของไทยไปฟิลิปปินส์ โดยรถยนต์ขนาดเครื่องยนต์ 1,500-2,500 cc. (HS 870332) เป็นสินค้าหมวดที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อการใช้มาตรการขึ้นภาษีครั้งนี้ เนื่องจากไทยพึ่งพาตลาดฟิลิปปินส์สูงสุดถึง 1 ใน 3 ของมูลค่าส่งออกรวมในหมวดดังกล่าว ทั้งนี้ อินโดนีเซียน่าจะเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์ เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลให้กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเช่นเดียวกันกับไทย ประกอบกับเป็นประเทศที่มีศักยภาพการผลิตรถยนต์ได้จำนวนมากในระดับใกล้เคียงกับไทย

     

    ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (HS 8704) คาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคล เพราะปัจจุบันไทยพึ่งพาการส่งออกไปฟิลิปปินส์ราว 9% ของมูลค่าส่งออกไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์กลุ่มนี้ของฟิลิปปินส์น่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อชาวฟิลิปปินส์ในระดับสูง เนื่องจากไทยครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในฟิลิปปินส์สูงถึง 62% ทิ้งห่างคู่แข่งค่อนข้างมาก ดังนั้น ความเสี่ยงที่ฟิลิปปินส์จะขึ้นอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์กลุ่มนี้จากไทยจึงไม่สูงนัก เพราะจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคในประเทศ

     

     ทั้งนี้ แม้ท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลไทยกับรัฐบาลฟิลิปปินส์จะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้สำเร็จ ทำให้ความเสี่ยงของการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากไทยสิ้นสุดลง แต่ในระยะยาวการที่ฟิลิปปินส์หันมาเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศมากขึ้น ผ่านนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ อาทิ โครงการฟื้นฟูอุตสาหกรรมรถยนต์ของฟิลิปปินส์ (Comprehensive Automotive Resurgence Strategy Program : CARS) และการตั้งเป้าให้ฟิลิปปินส์ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในอาเซียน จึงมีความเป็นไปได้ที่ฟิลิปปินส์จะหันมาใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (NBTs) คล้ายกับที่เวียดนามบังคับใช้มาตรการ Decree 116 กับรถยนต์นำเข้าของไทยเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ จึงเป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางรับมือได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที

 

 

Related
more icon
Most Viewed
more icon
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products